Loading

 

การศรัทธาต่อคุณลักษณะของอัลลอฮฺ

การศรัทธาต่อคุณลักษณะของอัลลอฮฺ

          อัลลอฮฺทรงมีคุณลักษณะอันสูงส่ง มีพระนามอันงดงาม ไม่มีใครที่จะรู้จักพระองค์ดียิ่งไปกว่าตัวพระองค์เอง เพราะฉะนั้น เราจึงปฏิเสธคุณลักษณะต่างๆ ที่พระองค์เองปฏิเสธ เรายืนยันคุณลักษณะต่างๆ ตามที่พระองค์เองได้ยืนยันในคัมภีร์ของพระองค์ ในสุนนะฮฺนบีของพระองค์ เราจะปฏิเสธทุกสิ่งที่เป็นข้อบกพร่องต่อพระองค์โดยภาพรวม(อัน-นัฟย์ อัล-มุจญ์มัล) เราจะยืนยันทุกคุณลักษณะที่ดีงามอันสมบูรณ์แก่พระองค์โดยละเอียด(อัล-อิษบาต อัล-มุฟัศศ็อล) เราจะไม่อธิบายวิธีการ(ตักยีฟ) ไม่เปรียบเทียบ(ตัชบีฮฺ) และไม่ยกคู่เสมอเหมือน(ตัมษีล)

 

         ใครก็ตามที่ให้คุณลักษณะอันบกพร่องแก่พระองค์แบบละเอียด เราก็จะปฏิเสธคุณลักษณะเหล่านั้นจากพระองค์โดยละเอียดเช่นกัน ดังที่พระองค์ทรงปฏิเสธการมีคู่ครองและบุตรจากตัวพระองค์เองว่า  
 

“พระองค์จะมีบุตรได้อย่างไร ในเมื่อพระองค์ไม่ทรงมีคู่ครอง”
 

 (อัล-อันอาม 101)
 

“พระองค์ไม่ทรงมีบุตร และไม่ทรงถูกกำเนิด” 

(อัล-อิคลาศ 3)

พระองค์ปฏิเสธคุณลักษณะที่ยิวได้กล่าวหาว่าพระองค์เป็นผู้ตระหนี่
 

“บรรดายิวได้กล่าวอ้างว่า พระหัตถ์ของอัลลอฮฺนั้นถูกล่าม มือของพวกเขานั่นแหละโดนล่าม

และพวกเขาถูกสาปแช่งเนื่องด้วยคำพูดที่พวกเขากล่าวอ้าง ทว่า พระหัตถ์ทั้งสองของอัลลอฮฺนั้นทรงแผ่กว้างเสมอ” 

 (อัล-มาอิดะฮฺ 64)
 

         เราจะปล่อยผ่านโองการต่างๆ ที่เป็นวะห์ยู เช่นโองการที่พูดถึงคุณลักษณะและพระนามต่างๆ ของพระองค์ โดยที่เราจะยืนยันตามข้อเท็จจริงของมันและเรารับรู้ร่องรอยบางอย่างของมัน โดยจะไม่เพิ่มเติมมากไปกว่านั้น เพราะอัลลอฮฺนั้นไม่มีสิ่งใดที่เหมือนพระองค์ พระองค์ตรัสว่า
 

“ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนพระองค์ และพระองค์นั้นเป็นผู้ได้ยิน ผู้ทรงเห็นยิ่ง”(อัช-ชูรอ 11)
 

         ไม่อนุญาตให้เราเปรียบเทียบคุณลักษณะของอัลลอฮฺกับสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น เพราะการเปรียบเทียบนั้นต้องมีฟัรอฺ (สาขาที่ออกมาจากต้นแบบ) และมี อัศลฺ (ต้นแบบที่ใช้เปรียบเทียบ) ซึ่งอัลลอฮฺนั้นทรงเอกะไม่มีคู่เสมอเสมอเหมือน จึงไม่มีสาขาที่จะเอาต่อเทียบกับพระองค์ได้ และไม่มีต้นแบบที่อยู่เหนือไปกว่าพระองค์ พระองค์ทรงเอกะและบริหารจัดการทุกสิ่ง ไม่มีบุตร ไม่มีผู้ให้กำเนิด ไม่มีคู่ใดๆ ทั้งสิ้น
 

         ปัญญาของมนุษย์ คือ เครื่องมือที่อัลลอฮฺทรงสร้างขึ้นมาให้เอาสิ่งที่มันได้ฟังไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่มันได้เห็น มันจะฟังโองการต่างๆ ของอัลลอฮฺที่ได้กล่าวถึงคุณลักษณะของพระองค์แต่มันไม่เคยได้เห็นพระองค์จริงๆ แล้วก็จะเอาไปเปรียบกับตัวอย่างที่ใกล้เคียงที่สุดที่มันเคยเห็น ปัญญาของทุกคนจะจินตนาการตามที่มันเคยเห็น และจะให้การอธิบายตามที่เคยดู ในขณะที่อัลลอฮฺนั้นไม่มีคู่ใดๆ ที่จะเอามาเปรียบได้ในจินตนาการของปัญญาใดๆ ทั้งสิ้น
 

         เพราะฉะนั้น เราจึงไม่สามารถที่จะปฏิเสธหรือยกเลิกพระนามใดๆ หรือคุณลักษณะใดๆ ของพระองค์เพียงเพราะเราเคยเห็นตัวอย่างที่ไม่งดงามในจินตนาการของเรา ซึ่งเราต้องการจะปฏิเสธจินตนาการนั้นด้วยการปฏิเสธคุณลักษณะของอัลลอฮฺหรือพระนามของพระองค์ วิธีการนี้ทำให้เราตกอยู่ในกับดักการเปรียบเทียบที่โมฆะ (กิยาส บาฏิล) และหล่นลงไปในหลุมแห่งการปฏิเสธโองการที่ถูกต้องจากอัลลอฮฺ ทว่าสิ่งที่เราต้องทำก็คือ ให้เราปฏิเสธความหมายชั่วๆ ที่ไม่ถูกต้องในจินตนาการของเราแทน และให้ยืนยันตามที่อัลลอฮฺทรงให้คุณลักษณะแก่พระองค์เอง และเราก็หยุดเพียงแค่นั้น อัลลอฮฺตรัสว่า

  “ทรงรู้ทั้งสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังพวกเขา ในขณะที่พวกเขาไม่อาจที่จะรอบรู้ได้ครอบคลุมตัวพระองค์” 

(ฏอฮา 110) 
 

 “สายตาทั้งหลายจะไม่สามารถเข้าถึงพระองค์ ในขณะที่พระองค์จะทรงเข้าถึงทุกสายตา และพระองค์ทรงเป็นผู้ที่ละเอียดยิ่ง และรอบรู้อย่างถี่ถ้วนยิ่ง” 

(อัล-อันอาม 103)
 

อัลลอฮฺนั้นทรงสูงส่งเหนือบัลลังก์ของพระองค์บนท้องฟ้า พระองค์ตรัสว่า 
 

          “พระองค์เป็นผู้แรก เป็นผู้รั้งท้ายสุด เป็นผู้ที่เด่นสุด และเป็นผู้ที่ลับสุด และทรงรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง พระองค์ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินในหกวัน จากนั้นทรงสถิตสูงส่งอยู่เหนือบัลลังก์อะรัช พระองค์ทรงรู้สิ่งที่เข้าไปในแผ่นดินและสิ่งที่ออกมาจากแผ่นดิน ทรงรู้สิ่งที่ลงมาจากฟ้าและสิ่งที่ขึ้นไปยังฟ้า ทรงอยู่กับพวกเจ้าเสมอไม่ว่าพวกเจ้าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม และอัลลอฮฺนั้นทรงเห็นสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ” 

(อัล-หะดีด 3-4)
         พระองค์ทรงยืนยันการอยู่เหนือบัลลังก์ด้วย ซาต ของพระองค์ และทรงรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทรงบอกพวกเราว่าพระองค์อยู่เคียงข้างบ่าวของพระองค์ นั่นคือพระองค์ทรงอยู่กับเราด้วยความรอบรู้ การได้ยินและการเห็นของพระองค์
 

“ทรงอยู่กับพวกเจ้าเสมอไม่ว่าพวกเจ้าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”

 (อัล-หะดีด 4)
 

          และสำหรับบ่าวผู้ที่ใกล้ชิดและเป็นที่รักของพระองค์ นอกจากที่จะทรงอยู่กับพวกเขาด้วยประการต่างๆ ข้างต้นแล้ว พระองค์ยังทรงเคียงข้างพวกเขาด้วยการคอยให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และการพิทักษ์ปกป้องของพระองค์ เช่นที่ได้ตรัสกับมูซาและฮารูนว่า 
 

 “เจ้าทั้งสองอย่าได้กลัว เพราะแท้จริงข้าจะอยู่กับเจ้าทั้งสอง ข้าจะคอยฟังและมองดู” (ฏอฮา 46)

          พระองค์อัลลอฮฺทรงครอบครองความประสงค์ที่สมบูรณ์ครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง อะไรที่ทรงประสงค์ก็จะเกิดขึ้น อะไรที่ไม่ทรงประสงค์ก็จะไม่เกิด เรายืนยันคุณลักษณะนี้เช่นที่ทรงได้ยืนยันด้วยพระองค์เอง เราจะไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้มากไปกว่านั้น เหมือนที่พวกปัญญานิยมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการอธิบายว่าอัลลอฮฺทำสิ่งที่พวกเขาเห็นว่ามันเป็นไปไม่ได้ หรือทรงควบรวมระหว่างสิ่งที่ขัดแย้งกันเอง และอื่นๆ เป็นต้น อัลลอฮฺได้ตรัสว่า 
 

 “(ญิบรีลกล่าวแก่ซะกะรียาว่า) เช่นนั้นแหละคือพระองค์อัลลอฮฺ ทรงทำในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์”

 (อาล อิมรอน 40)

“แต่ทว่า อัลลอฮฺนั้นจะทรงทำในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์” (อัล-บะเกาะเราะฮฺ 253)
 

“พระองค์เป็นเจ้าแห่งบัลลังก์อะรัชที่ยิ่งใหญ่ทรงเกียรติ ทรงกระทำจริงในสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์” (อัล-บุรูจญ์ 15-16)
 

          เราจะยืนยันในสิ่งที่วะห์ยูได้ยืนยัน และเราจะหยุดแค่นั้นโดยไม่ยืนยันคุณลักษณะอื่นนอกจากที่วะห์ยูได้ยืนยันไว้ และเราจะปฏิเสธในสิ่งที่ปัญญาบ่งชี้ว่ามันเป็นข้อบกพร่องถึงแม้ว่าคุณลักษณะความบกพร่องดังกล่าวจะไม่ได้ถูกระบุไว้ในวะห์ยูก็ตาม เช่น คุณลักษณะแห่งความโศกเศร้า การร้องไห้ การหิว และอื่นๆ

............................................................

 

แปลโดย : ทีมงานภาษาไทยเว็บอิสลามเฮ้าส์ / Islamhouse 

 

 

 

Maintained by: e-Daiyah Group (1429 H - 2008).