Loading

 

อัล-เกาะดัรฺ การกำหนดของอัลลอฮฺ

อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ลิขิตความเป็นไปของสิ่งถูกสร้างก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะถูกสร้างขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างถูกสร้างมาด้วยกำหนดการก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะบังเกิดขึ้น อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ตรัสว่า

(وَخَلَقَ كُلَّ شَيْءٍ فَقَدَّرَهُ تَقْدِيراً﴾ [الفرقان: ٢]

ความว่า “และพระองค์ทรงให้บังเกิดทุกสิ่ง แล้วทรงกําหนดมันให้เป็นไปตามกฎที่ได้วางไว้” (อัล-ฟุรกอน : 2)

 

และอัลลอฮฺได้ตรัสอีกว่า

﴿ إِنَّا كُلَّ شَيۡءٍ خَلَقۡنَٰهُ بِقَدَرٖ ٤٩ ﴾ [القمر: ٤٩] 

ความว่า “แท้จริงทุกๆ สิ่งนั้นเราสร้างมันตามกำหนดการที่ได้วางไว้” (อัล-เกาะมัรฺ : 49)

 

และอัลลอฮฺได้ตรัสอีกว่า

﴿وَكَانَ أَمۡرُ ٱللَّهِ قَدَرٗا مَّقۡدُورًا ٣٨ ﴾ [الأحزاب: ٣٨] 

ความว่า “และพระบัญชาของอัลลอฮฺนั้นได้กําหนดไว้แล้ว” (อัลอะหฺซาบ : 38)

 

อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้กำหนดลิขิตและความเป็นไปของสิ่งถูกสร้างทุกอย่างทั้งที่เป็นสิ่งดีๆ และสิ่งที่ไม่ดี ในหะดีษเศาะฮีหฺ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้กล่าวว่า

«وَتُؤْمِنُ بِالقَدَرِ خَيْرِهِ وَشَرِّهِ» [رواه مسلم برقم 8 من حديث عمر بن الخطاب رضي الله عنه]

ความว่า “และการที่ท่านได้ศรัทธาในเกาะดัรฺ(ลิขิตที่อัลลอฮฺได้กำหนดมาแล้ว)ทั้งที่เป็นสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีทุกอย่าง” (บันทึกโดยมุสลิม หมายที่ 8 จากหะดีษของท่านอุมัรฺ  อิบนุ อัล-ค็อฏฏอบ เราะฎิยัลลอฮุ อันฮุ)

 

ความรอบรู้ของอัลลอฮฺ ตะอาลา จะอยู่ควบคู่ไปกับเกาะดัรฺของพระองค์เสมอ และจะไม่มีผู้ใดสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ใดๆ ในสิ่งที่จะเกิดขึ้น นอกจากผู้ที่รอบรู้ในสิ่งเหล่านั้นเท่านั้น และจะไม่มีผู้ใดสามารถล่วงรู้รายละเอียดของสิ่งที่เกิดขึ้น วินาทีความเป็นไปของสิ่งดังกล่าว สถานที่ การเปลี่ยนแปลง จุดเริ่มต้นและจุดจบของสิ่งดังกล่าวนอกจากผู้สร้างสิ่งดังกล่าวเท่านั้น อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ตรัสว่า

﴿لِتَعۡلَمُوٓاْ أَنَّ ٱللَّهَ عَلَىٰ كُلِّ شَيۡءٖ قَدِيرٞ وَأَنَّ ٱللَّهَ قَدۡ أَحَاطَ بِكُلِّ شَيۡءٍ عِلۡمَۢا ١٢ ﴾ [الطلاق: ١٢]   

ความว่า “เพื่อพวกเจ้าจะได้รู้ว่า อัลลอฮฺคือพระผู้ทรงอานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง และ อัลลอฮฺนั้นทรงโอบล้อมทุกสรรพสิ่งด้วยความรอบรู้” (อัฏ-เฏาะลาก : 12)

 

อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ตรัสอีกว่า

﴿ أَلَا يَعۡلَمُ مَنۡ خَلَقَ وَهُوَ ٱللَّطِيفُ ٱلۡخَبِيرُ ١٤ ﴾ [الملك: ١٤] 

ความว่า “พระองค์ผู้ทรงสร้างจะไม่ทรงรอบรู้ดอกหรือ? พระองค์คือผู้ทรงรอบรู้อย่างถี่ถ้วนผู้ทรงตระหนักยิ่ง” (อัล-มุลกฺ : 14)

 

ใครผู้ใดก็ตามที่ได้ปฏิเสธลิขิตแห่งกฎสภาวการณ์หรือเกาะดัรฺของอัลลอฮฺ ตะอาลา แสดงว่าเขาผู้นั้นก็ได้ปฏิเสธต่อความรู้ของอัลลอฮฺ ในทางกลับกันใครผู้ใดที่ปฏิเสธความรู้ของอัลลอฮฺ ย่อมถือว่าเขาผู้นั้นก็ได้ปฏิเสธต่อเกาะดัรฺของอัลลอฮฺด้วยเช่นกัน

เกาะดัรฺหรือกำหนดการที่กำหนดไว้แก่สิ่งถูกสร้างทั้งหลายถูกบันทึกไว้ ณ อัลลอฮฺ ตะอาลา ในสมุดบันทึก อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

﴿مَّا فَرَّطۡنَا فِي ٱلۡكِتَٰبِ مِن شَيۡءٖۚ﴾ [الانعام: ٣٨] 

ความว่า “เราไม่ได้ให้มีความบกพร่องใดๆ ในสมุดบันทึก” (อัล-อันอาม : 38)

 

และอัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ตรัสอีกว่า

 ﴿وَكُلَّ شَيۡءٍ أَحۡصَيۡنَٰهُ فِيٓ إِمَامٖ مُّبِينٖ ١٢ ﴾ [يس: ١٢] 

ความว่า “และทุกสิ่งนั้นเราได้รวบรวมไว้อย่างครบถ้วนในบันทึกอันชัดแจ้ง” (ยาซีน : 12)

 

มัคลูก หรือสิ่งถูกสร้างทั้งหลายของอัลลอฮฺ สามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภท

ประเภทที่ 1 มัคลูกของอัลลอฮฺ ตะอาลา ที่เกิดขึ้นและเป็นไปตามการกำหนดของอัลลอฮฺ ตะอาลา โดยที่สิ่งถูกสร้างเหล่านั้นไม่มีความต้องการและไม่อาจเลือกตามความประสงค์ของตนเอง เช่น ดวงดาว และจักรวาล  

ประเภทที่ 2 มัคลูกของอัลลอฮฺที่มีความต้องการและสามารถเลือกตามความประสงค์ของตนเองได้ อย่างเช่น มนุษย์ ญิน มะลาอิกะฮฺ  อัลลอฮฺมิได้ทรงกำกับพวกเขาเหล่านั้นโดยปราศจากการเลือกของพวกเขาเองอยู่ด้วย เพราะถ้ากำกับโดยปราศจากการเลือกของพวกเอง นั่นก็เท่ากับเป็นการบังคับพวกเขาให้ทำบาปหรือมะอฺศิยะฮฺต่อพระองค์เอง(ยามที่คนเหล่านั้นทำบาป) และยังจะทรงลงโทษพวกเขาด้วยการกระทำดังกล่าวอีกด้วย(ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง) และแน่นอนว่าความประสงค์ของมนุษย์เองก็จะเป็นไปมิได้หากปราศจากจากการกำกับของอัลลอฮฺ เพราะถ้าหากมนุษย์สามารถทำได้เองโดยปราศจากการกำกับของอัลลอฮฺ แสดงว่าพวกเขาก็จะเป็นภาคีกับพระองค์ทั้งในเรื่องการกระทำและการประสงค์ ทว่าอัลลอฮฺได้กำหนดให้ความประสงค์ของมนุษย์นั้นอยู่ภายใต้อำนาจความประสงค์ของพระองค์ อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

﴿ إِنۡ هُوَ إِلَّا ذِكۡرٞ لِّلۡعَٰلَمِينَ ٢٧ لِمَن شَآءَ مِنكُمۡ أَن يَسۡتَقِيمَ ٢٨ وَمَا تَشَآءُونَ إِلَّآ أَن يَشَآءَ ٱللَّهُ رَبُّ ٱلۡعَٰلَمِينَ ٢٩ ﴾ [التكوير: ٢٧،  ٢٩] 

ความว่า “มันมิใช่อื่นใดนอกจากเป็นข้อตักเตือนแก่สากลโลก สำหรับบุคคลในหมู่พวกเจ้าที่ประสงค์อยู่ในทางอันเที่ยงตรง และพวกเจ้าจะไม่บรรลุถึงความต้องการใดๆ นอกจากอัลลอฮฺพระเจ้าแห่งจักรวาลทั้งมวลจะมีความประสงค์(ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น)” (อัตตักวีรฺ : 27 - 29)

 

อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้สร้างทั้งมนุษย์และสิ่งที่พวกเขากระทำด้วย  อัลลอฮฺได้ตรัสว่า

﴿ قَالَ أَتَعۡبُدُونَ مَا تَنۡحِتُونَ ٩٥ وَٱللَّهُ خَلَقَكُمۡ وَمَا تَعۡمَلُونَ ٩٦ ﴾ [الصافات: ٩٥- ٩٦] 

ความว่า “นบีอิบรอฮีมกล่าวว่า พวกท่านเคารพสักการะสิ่งที่พวกท่านแกะสลักกระนั้นหรือ?  ทั้งๆ ที่อัลลอฮฺทรงสร้างพวกท่านและสิ่งที่พวกท่านทำขึ้น” (อัศ-ศอฟฟาต : 95 - 96)

 

อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้สร้างสาเหตุและพระองค์ได้สร้างที่มาของสาเหตุ เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้สร้างสิ่งที่เกิดขึ้นจากสาเหตุดังกล่าว เหล่านี้คือผลแห่งความกว้างใหญ่ไพศาลของความรอบรู้ ความยิ่งใหญ่ของหิกมะฮฺ(วิทยปัญญา)ของพระองค์ในการดำเนินการบริหารสิ่งต่างๆ ที่พระองค์ได้สร้างมาบนแนวทางและระบบระเบียบของพระองค์

และไม่อนุญาตให้เลิกหรือระงับการศรัทธาในสิ่งที่ปัญญาไม่สามารถทำความเข้าใจได้ในเหตุผลและข้อเท็จจริงในการกำหนดของอัลลอฮฺต่อสิ่งนั้นๆ เพราะหิกมะฮฺบางอย่างก็ไม่สามารถที่จะเข้าถึงได้ด้วยปัญญา ปัญญาเป็นเหมือนกับภาชนะใส่น้ำ ส่วนหิกมะฮฺบางอย่างนั้นเป็นเหมือนกับมหาสมุทรที่ภาชนะดังกล่าวไม่สามารถรับมหาสมุทรอันมากมายดังกล่าวได้ และถ้าจะเทหิกมะฮฺลงไปให้ล้นในปัญญา แน่นอนว่ามันจะทำให้สตินั้นพังและฟั่นเฟือนไปในที่สุด

หิกมะฮฺบางอย่างนั้น การใคร่ครวญมันอย่างยาวนานก็ไม่ได้เพิ่มอะไรเลยนอกจากความสับสนฟั่นเฟือนมากเข้าไปอีก ซึ่งมันก็เหมือนกับการใช้สายตาเพ่งมองอย่างยาวนานไปยังดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้าในช่วงเที่ยงวัน ที่ไม่ได้เพิ่มอะไรให้กับดวงตามากไปกว่าความเจ็บปวดและความสับสนพร่ามัว

*****

คัดจากหนังสือ ประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับหลักความเชื่อของมุสลิม
http://IslamHouse.com/426424

Maintained by: e-Daiyah Group (1429 H - 2008).