Loading

 

สิทธิสตรีตามบทบัญญัติอิสลาม

 

ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาอันยิ่งใหญ่ที่ถูกประทานลงมาเพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติให้พ้นจากความพินาศ และนำพาไปสู่หนทางอันเที่ยงตรง อัลลอฮฺ ตรัสว่า :


«??????? ????????? ???????? ????????? ????? ?????????? ????????? ????? ????????????»

ความว่า: " คือแนวทางของบรรดาผู้ที่พระองค์ ได้ทรงโปรดปรานแก่พวกเขา มิใช่แนวทางของบรรดาพวกที่ถูกกริ้ว และมิใช่ (แนวทางของ) บรรดาพวกที่หลงผิด" อัลฟาติฮะฮฺ 1:7


อิสลามเป็นศาสนาที่ให้การยกย่องสตรี และทำหน้าที่ดูแลรักษาความเป็นธรรมชาติของสตรี รักษาเกียรติของนาง ทำให้พวกนางนั้นกลับมามีศักดิ์ศรีอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่โดนกดขี่ข่มเหง อิสลามได้กำหนดบทบัญญัติ (ฮุกุ่ม)ต่างๆที่สอดคล้อง และเหมาะสมกับธรรมชาติของพวกนาง


หากเราย้อนกลับไปมองสภาพในอดีต ใหยุคก่อนอิสลาม(ญาฮิลียะฮฺ) จะพบว่าสตรีในยุคนั้นไม่มีสิทธิเสรีภาพ ไม่มีคุณค่าใดๆเลยแม้แต่น้อย ไม่สามารถเสนอแนะ หรือแสดงทัศนคติใดๆทั้งสิ้น เป็นเพียงมรดกตกทอดเท่านั้น แต่เมื่ออิสลามประจักษ์ขึ้นพวกนางกลับกลายเป็นจุดศูนย์กลางที่สำคัญยิ่ง พวกนางได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในหน้าที่ที่สำคัญยิ่ง อันได้แก่


1. หน้าที่ในการอบรม เลี้ยงดูบุตรหลาน
ดังบทกวีที่ว่า

??????? ?????????? ????? ????????????? ?????????? ??????? ??????? ????????????

"แม่นั้นคือโรงเรียนแห่งแรก เมื่อแม่ทำหน้าที่อย่างดียิ่งฉันท์ใด ก่อให้เกิดสายเลือดเผ่าพันธุ์ที่ดียิ่งฉันท์นั้น"


2. หน้าที่ในการดูแลกิจการภายในบ้านสามี
ดังคำสอนของท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ที่ว่า

«??????????? ????????? ??? ?????? ?????????? ?????? ???????????? ???? ????????????»

ความว่า: " สตรีนั้นทำหน้าที่ดูแลบริหารบ้านของสามี นางมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อผู้ที่อยู่ภายใต้การดูแลของนาง" บันทึกโดยอิมามอัลบุคอรีย์ และอิมามมุสลิม


ศาสนาอิสลามได้มอบสิทธิแก่สตรี ยกย่องให้เกียรติพวกนางอย่างมากมาย ดังนั้นจึงเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่สตรีมุสลิมะฮฺจะต้องยึดมั่นในศาสนาของนาง ยึดมั่นในสิทธิต่างๆที่ศาสนาได้บัญญัติไว้ให้ ซึ่งปรากฎอยู่ในอัลกุรอาน(กิตาบุลลอฮฺ) และแบบฉบับของท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม (ซุนนะฮฺ)ตามความเหมาะสมตามโครงสร้างของสรีระ และธรรมชาติของนาง


นอกจากนี้ศาสนาอิสลามยังได้ให้ความเสมอภาคระหว่างเพศชายและเพศหญิงในด้านสิทธิมนุษยชน ด้วยการให้นางได้รับสิทธิต่างๆดังต่อไปนี้ :


1. สิทธิแห่งการมีชีวิต

ดังดำรัสของอัลลอฮฺ  ที่ว่า


«????? ??????????? ????????? ??????? ??????? ?????? ?????? ?????????»


ความว่า: "พวกเจ้าทั้งหลายอย่าฆ่าชีวิต (มนุษย์ไม่ว่าชายหรือหญิง) ที่อัลลอฮฺทรงห้ามไว้ นอกจากด้วยสิทธิอันชอบธรรมเท่านั้น" อัลอันอาม 6: 151


ซึ่งในอดีต ชาวยุคก่อนอิสลามจะฝังลูกสาวของตนในดินให้ตายทั้งเป็น ดังดำรัสของอัลลอฮฺ  ที่ว่า

«??????? ?????????????? ????????» 8 «??????? ????? ????????» 9

ความว่า: "และเมื่อทารกหญิงที่ถูกฝังทั้งเป็นถูกถาม ด้วยความผิดอันใดเขาจึงถูกฆ่า" อัตตักวีร 81 : 8 - 9


2 . การได้รับการยกย่องและให้เกียรติ
ดังดำรัสของอัลลอฮฺ  ที่ว่า


«???????? ?????????? ????? ????? ??????????????? ??? ???????? ???????????»

ความว่า: "และโดยแน่นอนเราได้ให้เกียรติแก่ลูกหลานของอาดัม(ชายและหญิง) และเราได้บรรทุกพวกเขาทั้งทางบกและทางทะเล " อัลอิสรออฺ 17: 70


3. การได้รับความเท่าเทียมกันระหว่างเพศชายและหญิงในผลบุญตอบแทน ทั้งในโลกนี้(ดุนยา) และโลกหน้า(อาคิเราะฮฺ)
ดังดำรัสของอัลลอฮฺ  ที่ว่า


«????? ???????? ???? ????????????? ??? ?????? ???? ?????? ?????? ???????? ????????????? ??????????? ?????????? ????? ??????????? ????????»

ความว่า: "และผู้ใดกระทำในส่วนที่เป็นสิ่งที่ดีงามทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็ตาม ในฐานะที่พวกเขาเป็นผู้ศรัทธาแล้วละก็ ชนเหล่านี้จะได้เข้าสวรรค์ และพวกเขาจะไม่ถูกอธรรม แม้เท่ารูเล็กๆที่อยู่บนหลังเมล็ดอินทผาลัม" อันนิซาอฺ 4: 124


โดยเหตุนี้เองศาสนาอิสลามจึงบัญญัติให้มีความเท่าเทียมกันในการลงโทษ
อัลลอฮฺ  ตรัสว่า


«??????????? ?????????? ?????? ????? ????????? ???????????»

ความว่า: "และเราได้บัญญัติแก่พวกเขาไว้ในคัมภีร์นั้นว่าชีวิต(ไม่ว่าชายหรือหญิง) ต้องชดใช้ด้วยชีวิต"  อัลมาอิดะฮฺ 5: 45


อัลลอฮฺ ตรัสว่า


«???????????? ?????????????? ???????????? ?????????????»

ความว่า: "และขโมยชายและขโมยหญิงนั้นจะตัดมือของเขาทั้งสอง(คือตัดมือขวาก่อนและถ้าขโมยอีกให้ตัดมือซ้าย" อัลมาอิดะฮฺ : 5 38


4.สิทธิในการแสดงทัศนคติ
ดังดำรัสของอัลลอฮฺ ที่ว่า


«???? ?????? ??????? ?????? ??????? ??????????? ??? ????????? ??????????? ????? ??????? ????????? ???????? ?????????????? ????? ??????? ??????? ???????»

ความว่า: "โดยแน่นอนอัลลอฮฺทรงได้ยินถ้อยคำของสตรีที่กำลังโต้แย้งกับเจ้าในเรื่องสามีของนางและนางได้ร้องทุกข์ต่ออัลลอฮฺ และอัลลอฮฺนั้นทรงได้ยินการตอบโต้ของเจ้าทั้งสอง แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรู้เห็นเสมอ" อัลมุญาดะละฮฺ 58: 1


อัลลอฮฺ  ทรงรับฟังการร้องทุกข์ของนางเคาว์ละฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา ต่อท่านร่อซูล
ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม เมื่อสามีของนางคือ ท่านเอาซฺ บุตรของอัศศอมิต กล่าวกับนางขณะเกิดโทสะว่า:


«?????? ??????? ???????? ??????»

"เธอเป็นเสมือนแม่ของฉัน" (การพูดเช่นนี้ในสมัยนั้นถือว่าเป็นการหย่า)


เช่นเดียวกันท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม ได้เคยปรึกษาหารือกับท่านหญิงอุมมุซะละมะฮฺ อุมมุลมุอฺมินีน(มารดาแห่งศรัทธา) ก่อนการทำสนธิสัญญาประนีประนอม ในวันอัลฮุดัยบียะฮฺ ตัวอย่างทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า การแสดงทัศนคติสำหรับสตรีนั้นเป็นที่อนุมัติ และอนุมัติให้ปรึกษาหารือกันระหว่างชายและหญิงเช่นกัน


5. อิสลามให้สตรีมีเสรีภาพในด้านความเชื่อ(อะกีดะฮฺ) และในด้านการพัฒนาปรับปรุงจิตใจคน และในด้านการทำหน้าที่เชิญชวนไปสู่อัลลอฮฺ ?
ดังดำรัสของอัลลอฮฺ  ที่ว่า


«???????????????? ???????????????? ?????????? ?????????? ?????? ??????????? ?????????????? ???????????? ???? ??????????»


ความว่า: "และบรรดามุอฺมินชาย และบรรดามุอฺมินหญิงนั้น บางส่วนของพวกเขาต่างเป็นผู้ช่วยเหลืออีกบางส่วน ซึ่งพวกเขาจะใช้ให้ปฏิบัติในสิ่งที่ชอบและห้ามปรามในสิ่งที่ไม่ชอบ" อัตเตาบะฮฺ 9: 71


และอีกสิ่งที่บ่งบอกถึงการยกย่องสตรีในอิสลามคือ การให้ความเท่าเทียมกับชายในการครอบครอง การประกอบกิจการธุรกิจ เศรษฐกิจ การเงิน การค้า การขาย การกู้ยืม และบริจาค ทั้งหมดนี้นางสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง
สิทธิที่สตรีจะได้รับในด้านสังคม


1. สิทธิในการที่จะได้รับการศึกษา
ในสมัยท่านร่อซูล
ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม บรรดาสตรีนั้นจะเข้าร่วมรับฟังบทเรียนคำสอนจากท่านนบี ? ร่วมละหมาดญะมาอะฮฺ ละหมาดวันศุกร์ และละหมาดอีด


2. สิทธิในการเลือกสามี
ดังรายงานจากท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิ อับบ๊าส ระบุว่า ท่านร่อซูล
ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม กล่าวว่า


«?????????? ??????? ??????????? ???? ??????????? ??????????? ??????????????? ???????? ??? ????????? ??????????? ??????????»

ความว่า: "หญิงที่เคยมีสามีแล้ว(เป็นหม้าย)นางมีสิทธิในการเลือกสามีใหม่มากกว่าผู้ปกครองของนาง ส่วนหญิงที่บริสุทธิ์(ไม่เคยสมรส)นั้น บิดาของนางจะต้องขอความเห็นชอบจากนาง และการเห็นชอบของนางนั้น คือการที่นางนิ่ง(อันเนื่องจากความอาย)" บันทึกโดยอิมามมุสลิม


3. สิทธิของภรรยา ในการได้รับการปฏิบัติที่ดีจากสามี
อัลลอฮฺ  ตรัสว่า


«???????????????? ???????????????»

ความว่า: "และจงอยู่กับพวกนางด้วยดี" อันนิซาอฺ 4: 19


รวมทั้งสิทธิในการได้รับค่าเลี้ยงดู (อัลนะฟะเกาะฮฺ) และสิทธิในการได้รับมรดกจากสามีบทบัญญัติศาสนาได้ยืนยันว่า สตรีมีสิทธิในการรับมรดกทุกๆกรณี ไม่ว่าเธอจะอยู่ในฐานะใดจะเป็นลูกสาว น้องสาว พี่สาว ภรรยา แม่ ยายหรือย่าก็ตาม
นอกจากนี้บัญญัติศาสนายังได้กำหนดอัตราส่วนที่สตรีพึงได้รับในทุกๆสภาพ ดังกล่าวนับเป็นการยกเลิกบทบัญญัติเดิมในยุคก่อนอิสลามที่ห้ามพวกนางจากการรับมรดกใดๆทั้งสิ้น


จะเห็นได้ว่าสิทธิของสตรีในศาสนาอิสลามนั้น ถูกรองรับและประกันโดยบทบัญญัติที่มั่นคง มนุษย์คนใดก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงหรือริดรอนสิทธิของพวกนางได้ แต่สิทธิสตรีในกฎหมายมนุษย์นั้นเสี่ยงต่อการสังคยานา และการเปลี่ยนแปลงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ของผู้วางตัวบทกฎหมายนั้นๆ

 


โดย. ดร. ตอริก อัลอีซา

แปลและเรียบเรียงโดย. อ. อิสมาอีล สุขประเสริฐ

ที่มา สายสัมพันธ์ ปีที่ 38 อันดับที่ 415 - 416

 

Maintained by: e-Daiyah Group (1429 H - 2008).